วิธีทำบาร์โค้ดด้วยโปรแกรม Word 2013 2016

Details

Hits: 28475

ถ้าพูดถึงการทำบาร์โค้ดแล้วละก็ หลาย ๆ คนคิดว่าต้องทำยากแน่ แต่ความจริงแล้วการทำบาร์โค้ดเองนั้นทำได้ง่ายมาก ๆ บทความนี้จะสอนวิธีทําบาร์โค้ด Word เวอร์ชั่น 2013 หรือ 2016 ก็สามารถทำบาร์โค้ดติดสินค้าได้แล้วโดยไม่ต้องใช้โปรแกรมอื่น ๆ ช่วยเลย

ก่อนเราจะเริ่มทำบาร์โค้ดกัน สิ่งที่ต้องมีคือโปรแกรม Microsoft Word เวอร์ชั่น 2013 หรือ 2016 ก็ได้ครับ ต่ำกว่านั้นไม่รองรับคำสั่ง DISPLAYBARCODE นะครับ

มาดูคำสั่งในการสร้างบาร์โค้ด DISPLAYBARCODE นั้นรองรับบาร์โค้ดแบบต่าง ๆ ดังนี้ QR, CODE128, CODE39, JPPOST, EAN8|EAN13, JAN8|JAN13, UPCA|UPCE, ITF14, NW7, CASE

ก่อนจะพิมพ์คำสั่งสร้างบาร์โค้ด ให้กดปุ่ม Ctrl + F9 บนคีย์บอร์ด จะมีเครื่องหมายปีกกาเปิด - ปิด แสดงขึ้นมา ให้เราพิมพ์คำสั่งดังนี้ครับ

{DISPLAYBARCODE “www.sara2u.com” QR \q 3}

เสร็จแล้วให้กด Alt + F9 เพื่อแสดงบาร์โค้ด จะได้ดังภาพด้านล่างครับ เป็นอันเสร็จแล้วครับ

เรามาดูความหมายของคำสั่งที่เราใช้สร้างบาร์โค้ดกันบ้างครับ

“www.sara2u.com” เป็นข้อมูลที่เราจะใส่ในบาร์โค้ดครับ ก็นำข้อความใส่ไว้ในเครื่องหมาย “” ได้เลย

QR เป็นคำสั่งระบุว่าสร้างบาร์โค้ดแบบ QR ถ้าต้องการสร้างบาร์โด้ดแบบอื่น ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ โดยดูจากประเภทบาร์โค้ดที่รองรับ จากที่ได้อธิบายไว้ด้านบนครับ

\q 3 เป็นการกำหนด error correction level สำหรับ QR โค้ดเท่านั้น

มาลองดูอีกสักตัวอย่างครับคราวนี้จะสร้างบาร์โค้ดแบบ CODE128 เป็นบาร์โค้ดแบบแท่ง กด Ctrl + F9 แล้วพิมพ์คำสั่งตามนี้ครับ

{DISPLAYBARCODE “www.sara2u.com” CODE128 \t \h 1000}

กด Alt + F9 เพื่อดูผลลัพท์ครับ

เรามาดูความหมายของคำสั่งที่เราใช้สร้างบาร์โค้ดกันบ้างครับ

“www.sara2u.com” เป็นข้อมูลที่เราจะใส่ในบาร์โค้ดครับ ก็นำข้อความใส่ไว้ในเครื่องหมาย “” ได้เลย

CODE128 เป็นคำสั่งระบุว่าสร้างบาร์โค้ดแบบ CODE128 ถ้าต้องการสร้างบาร์โด้ดแบบอื่น ๆ ก็สามารถเปลี่ยนได้ โดยดูจากประเภทบาร์โค้ดที่รองรับ จากที่ได้อธิบายไว้ด้านบนครับ

\t เป็นการกำหนดให้แสดงข้อมูลที่ใส่ในบาร์โค้ดด้านล่างด้วย

\h 1000 เป็นการขนาดของบาร์โค้ดครับ สามารถลองปรับดูได้

เป็นยังไงบ้างครับไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ สำหรับการสร้างบาร์โค้ดด้วยตัวเอง บทความนี้ผมอธิบายแบบง่าย ๆ สั้น ๆ เพื่อให้เข้าใจง่าย แต่ถ้าใครอยากจะศึกษาเพิ่มเติมสามารถดูได้จากที่นี่ครับ msdn.microsoft.com

สำหรับบทความการสร้างบาร์โค้ดนี้ขอจบเพียงแค่นี้ครับ บทความหน้าเราจะมาแนะนำการสร้างบาร์โค้ดทีละเยอะ ๆ โดยที่ไม่ต้องมานั่งพิมพ์คำสั่งที่ละตัวครับ เพราะผมคิดว่าถ้าจะทำบาร์โค้ดคงไม่มีใครทำ 1 – 2 ชิ้นแน่ครับ อาจจะเป็นหลัก 100 หรือ 1000 แล้วมาติดตามกันนะครับ